คู่มือทำบุญบ้านบริษัท
คู่มือข้อปฏิบัติ
การจัดงานทำบุญบ้านและทำบุญบริษัท
อย่าทำบุญแบบ "ตำน้ำพริกละลายน้ำ" หมายความว่า จัดงานทำบุญทั้งทีกลับไม่ได้คุณค่าเพราะนำเงินไปใช้ในสิ่งที่ไม่ควรใช้ เช่นใช้เลี้ยงสุรา
อย่าทำบุญแบบ "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” หมายความว่าสิ่งที่เป็นสาระควรจ่ายกลับตระหนี่ แต่เรื่องไร้สาระกลับกล้าจ่ายโดยไม่ไตร่ตรอง จากประสบการณ์การจัดงานทำบุญต่างๆมายาวนานกว่า ๓๐ ปี เดชะบุญขอแบ่งปันถ่ายทอดให้ท่านที่จะจัดงานทำบุญได้รู้ถึงขั้นตอนการทำบุญต่างๆ ให้ได้ตระหนักถึงความสำคัญและสาระธรรมที่ถูกต้องในการจัดงานทำบุญ เพื่อให้งานทำบุญของท่านเป็นงานทำบุญที่มีคุณค่าและคุ้มค่ากับความตั้งใจจัดงานทำบุญ
๑. เป้าหมายการทำบุญบ้านหรือบริษัทฯ คือการอาราธนาคุณพระรัตนตรัยเป็นที่เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด เพื่อให้การเริ่มต้นเข้าอยู่อาศัยหรือการเริ่มกิจการประสบความสุขความสำเร็จ การทำบุญยังเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีกับเหล่าเทวดาเจ้าที่เจ้าทาง ที่อาศัยอยู่ ณ สถานที่นั้นๆก่อนที่เราจะเข้าไปอยู่ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็น ต่างฝ่ายต่างเกื้อกูลกัน ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
๒. มารยาทปฏิบัติต่อคณะพระภิกษุสงฆ์ พระสงฆ์เป็นสถาบันที่แม้แต่พระมหากษัตริย์แต่ก็ทรงให้ความเคารพอ่อนน้อม การทำบุญบ้านหรือบริษัทฯจึงควรมีความเคารพอ่อนน้อมต่อคณะพระภิกษุสงฆ์อันจะเป็นทางมาแห่งบุญให้กับตัวเอง ผูู้ร่วมงานทำบุญควรเตรียมความพร้อมก่อนคณะสงฆ์เดินทางมาถึง ไม่ควรให้คณะสงฆ์มาถึงแล้วต้องนั่งรอเป็นเวลานาน หรือนั่งคุยส่งเสียงดังในขณะคณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ควรปิดเสียงโทรศัพท์และถวายความสงบให้ท่านมีสมาธิในการเจริญภาวนา
๓. การเลือกวัด ควรเลือกวัดที่อยู่ใกล้สถานที่จัดงานทำบุญ เพื่อแสดงความเคารพในบุญบารมีที่วัดนั้นๆแผ่คุ้มครองมายังบ้านที่เราอยู่อาศัย และเพื่อความสะดวกในการเดินทางของคณะพระภิกษุสงฆ์ โดยเฉพาะพระที่มีอายุมากจะได้ไม่ลำบากในการเดินทาง หรือพระที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานศาสนกิจ หรือการเรียนศึกษาปริยัติธรรม จะได้สามารถเดินทางกลับวัดได้ทัน ๔. การเลือกวัน ในพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าทรงสอนหลักเหตุและผลของกรรม ไม่ได้สอนให้เชื่อในเรื่องฤกษ์ยาม กล่าวคือวันที่ทำความดีคือวันดี ดังนั้นการเลือกวันจึงควรเลือกวันที่ตัวเราและหมู่ญาติสามารถมาร่วมงานทำบุญได้พร้อมหน้าโดยสะดวก อาจเป็นวันธรรมดาหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ได้ ที่สำคัญควรนิมนต์พระล่วงหน้าเนิ่นๆ ไม่ควรเชิญแขกจนกว่าได้รับการยืนยันว่านิมนต์พระได้แล้ว
๕. การเตรียมวันทำบุญ ควรเลือกวันเผื่อไว้อย่างน้อย ๒ วัน ในกรณีที่วัดที่นิมนต์รับกิจนิมนต์เต็มแล้ว จะได้สามารถขยับไปยังวันที่ว่างแทนได้ เมื่อพระรับกิจนิมนต์แล้ว หากไม่สุดวิสัยจริงๆไม่ควรเลื่อนหรือยกเลิกท่าน ๖. การนิมนต์พระ สามารถนิมนต์แบบเฉพาะเจาะจงพระ หรือไม่เฉพาะเจาะจง การถวายทานที่เฉพาะเจาะจงเรียกว่าปาฏิบุคลิกทาน ส่วนการถวายทานที่ไม่เฉพาะเจาะจงเรียกว่าสังฆทาน อย่างไรก็ตามพระพุทธเจ้าทรงยกย่องการถวายทานแบบสังฆทานว่ามีผลบุญมากกว่าปาฏิบุคลิกทาน เพราะเป็นการทำทานที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อกว้างขวางกว่าเจาะจง ๗. การถวายภัตตาหารเช้าหรือเพล เจ้าภาพทำบุญควรเลือกเวลาการถวายภัตตาหารให้เหมาะสมกับสถานที่และเวลาที่ใช้ในการเดินทางชองพระ,เจ้าภาพและแขกร่วมงาน หากทำบุญถวายภัตตาหารเช้าควรเริ่มเวลาประมาณ ๗.๓๐ น. หรือหากเลือกถวายภัตตาหารเพลก็ควรเริ่มพิธีเวลาประมาณ ๑๐.๓๐ น. อย่างไรก็ตามเวลาก็อาจยืดหยุ่นตามการปฏิบัติศาสนกิจของพระวัดในวันนั้นๆได้ เช่นกิจบิณฑบาตในตอนเช้า กิจพิธีบรรพชาอุปสมบทในตอนสาย เป็นต้น
๘. จำนวนพระ โดยประเพณีนิยมคือ ๕ หรือ ๙ รูป หากสถานที่จัดงานทำบุญมีพื้นที่เพียงพอ ควรนิมนต์พระจำนวน ๙ รูป ๙. การจัดโต๊ะหมู่บูชาพระ ควรอาราธนานำพระพุทธรูปที่มีอยู่แล้วที่บ้านหรือบริษัทมาเป็นประธานในการทำบุญ โดยวางบนชั้นสูงสุดและประดับด้วยดอกไม้เช่นดอกบัว เพื่อแสดงความเคารพในพระรัตนตรัย หากบ้าน/บริษัทฯใดยังไม่มีพระพุทธรูป ก็ควรถือโอกาสในการทำบุญนี้ จัดหาพระพุทธรูป เพื่อนำมาประดิษฐานไว้เพื่อเป็นศูนย์รวมใจที่บ้าน/บริษัทฯ ๑๐. การจัดหาเสนาสนะ ควรจัดหาเสนาสนะที่เรียบร้อย สะอาด ประณีต สมฐานะ ในการต้อนรับพระ หากหยิบยืมจากวัดมาใช้ ก็ควรใช้ด้วยความระระวัง ไม่ทำของสงฆ์ชำรุดเสียหายจะได้ไม่เป็นหนี้สงฆ์ และควรทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนส่งคืนวัด ๑๑. ทิศการตั้งโต๊ะหมู่และเสนาสนะในการทำบุญ ในพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนว่าความเป็นมงคลมาจากการหันทิศใดๆ แต่ทรงสอนเรื่องทิศ ๖ ว่าด้วยข้อธรรมที่ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนต่อบุคคลต่างๆรอบตัวเราต่างหาก ดังนั้นการตั้งโต๊ะหมู่และเสนาสนะจึงควรพิจารณาจากความเหมาะสมของสถานที่มากกว่า เช่น ไม่ควรตั้งอยู่ใต้บันได เป็นต้น การทำบุญจึงควรกระทำด้วยปัญญาอันบริสุทธิ์ อย่าทำด้วยความหลงงมงาย
๑๒. การเตรียมอุปกรณ์ทำบุญ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ครบถ้วน เช่น โต๊ะหมู่บูชา อาสนะพระ ตาลปัตร ขันน้ำมนต์ แป้งเจิม แผ่นทอง สายสิญจน์ เทียนน้ำมนต์ ดอกไม้ ธูปเทียน พานพุ่ม เป็นต้น โดยจัดวางให้เป็นระเบียบถูกที่ถูกตำแหน่ง ๑๓. การจัดสถานที่ทำบุญ ก่อนวันจัดงานทำบุญควรทำความสะอาดบ้านหรือบริษัทให้สะอาด เก็บสิ่งของต่างๆให้เรียบร้อย ไม่ควรแขวนหรือวางรูปภาพคนหรือสัตว์อยู่เหนือศีรษะคณะพระภิกษุสงฆ์ในขณะนั่งบนเสนาสนะ (อนุโลมรูปวิวทิวทัศน์ที่เหมาะสม) ๑๔. การแต่งกายในวันทำบุญ เจ้าภาพและแขกที่มางานทำบุญควรแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สุภาพสตรีไม่ควรนุ่งสั้น หรือเสื้อคอกว้าง ควรนุ่งกางเกงที่ลุกนั่งสะดวก
๑๕. มารยาทในการไปร่วมงานทำบุญ การไปงานทำบุญคือการไปอนุโมทนาสนับสนุนยินดีการทำความดีทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของเจ้าภาพ ดังนั้นเมื่อไปงานจึงควรนำอาหารหรือปัจจัยไทยธรรมไปร่วมทำบุญถวายพระ อันจะเป็นกุศลต่อผู้ถวายเอง เจ้าของบ้านไม่ควรห้ามปรามหรือปฏิเสธแขกร่วมงาน หากแขกที่มาร่วมงานปรารถนาจะร่วมทำบุญด้วยใจที่บริสุทธิ์ ควรอนุโมทนาและรับปัจจัยนั้นๆเพื่อถวายคณะพระภิกษุหรือเป็นนำมาค่าใช้จ่ายในการจัดงานทำบุญ ๑๖. การปฏิบัติตนระหว่างพระเจริญพระพุทธมนต์ เมื่อคณะพระภิกษุสงฆ์เริ่มเจริญพระพุทธมนต์ควรงดการพูดคุย และควรปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่ควรมีเสียงใดๆรบกวนสมาธิพระ งดลุกจากที่นั่งหรือเดินไปเดินมา ให้ประนมมือหลับตาทำจิตใจให้สงบ สำรวมกายวาจาใจเพื่อรับความมงคลจากพระพุทธมนต์ หากมีเด็กเล็กควรดูแลให้เรียบร้อยไม่ส่งเสียงดัง หากซุกซนมากไม่สามารถควบคุมได้ก็ควรนำออกไปก่อน ๑๗. การเตรียมอาหารบูชาข้าวพระพุทธ ก่อนการการถวายภัตตาหารพระ ควรเตรียมข้าวอาหารหวานคาวและน้ำดื่ม โดยจัดเป็นสำรับขนาดเดียวกับพระสงฆ์ฉัน วางไว้ด้านหน้าโต๊ะหมู่ด้วยความเคารพ
๑๘. การกล่าวถวายภัตตาหาร ผู้เป็นประธานในพิธีหรือเจ้าภาพเลี้ยงพระควรเป็นผู้กล่าวคำถวายด้วยตนเอง การถวายคือการแสดงตนให้คณะพระภิกษุสงฆ์ตลอดจนเทวดาสัมภเวสีให้รับรู้และอนุโมทนาในผลบุญ และหากเป็นการถวายเพื่ออุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ล่วงลับ ควรใช้คำกล่าวถวายเป็นบทมตกภัตตาหาร ๑๙. การประเคนถวายพระ หากเป็นสิ่งของที่สามารถยกได้ ให้ยกลอยจากพื้น ผู้ชายให้ยื่นถวายด้วยสองมือถวายส่งที่มือพระภิกษุ ส่วนผู้หญิงให้วางบนผ้ารับประเคน เมื่อประเคนอาหารพระแล้วให้ปล่อยมือออกไม่โดยไปจับแตะต้องอีก มิฉะนั้นจะกลายเป็นการขาดประเคน ๒๐. การเตรียมภัตตาหารถวายพระ อาหารควรประกอบด้วยข้าว อาหารคาว ผลไม้ ของหวาน และน้ำดื่มที่สะอาดและประณีต ในปริมาณที่เหมาะสม ส่วนที่เหลือเจ้าภาพและแขกสามารถนำไปรับประทานหลังพระฉันเสร็จแล้ว และไม่ควรรับประทานอาหารขณะพระกำลังเจริญพระพุทธมนต์ ควรรอส่งพระกลับก่อนจึงค่อยรับประทานอาหาร
๒๑. การจัดของถวายสังฆทาน ควรถวายไทยธรรมที่ดีมีคุณภาพเท่านั้น(สามีทาน) ไม่ควรถวายด้วยถังสังฆทานที่ด้อยคุณภาพ(ทาสทาน) ปริมาณที่ดูเหมือนมากไม่สำคัญเท่าคุณภาพของที่ถวายและเจตนาที่บริสุทธ์ของผู้ให้ สามารถถวายได้ทั้งอุปโภคและบริโภคพร้อมปัจจัยใส่ซองวางบนถาดที่ถวายสังฆทาน ๒๒. การถวายผ้าไตร เจ้าภาพสามารถถวายผ้าไตรในการประกอบงานทำบุญพร้อมๆกับการทำสังฆทาน ผลบุญการถวายผ้าไตรคือ ประการที่หนึ่ง พระภิกษุสงฆ์ดำรงอยู่ได้ด้วยผ้าไตร ผู้ถวายได้ชื่อว่าเป็นผู้ต่ออายุพระพุทธศาสนา ประการที่สอง ผ้าไตรหมายถึงวรรณะ ผู้ถวายจึงได้เกิดเป็นผู้มีชาติตระกูลสูง มีวรรณะงดงามและมีสัมมาทิฐิ ประการที่สาม ผู้ถวายผ้าไตรด้วยดีแล้ว เมื่อปรารถนาบวช จะได้รับโอกาสการบวชได้โดยง่าย แม้เป็นหญิงก็ได้เป็นชายและได้บวชในภายภาคหน้า
๒๓. การกล่าวคำอธิษฐานธรรม ก่อนถวายสังฆทาน โดยอริยะพิธีที่ถูกต้องแล้ว ควรกล่าวคำอธิษฐานก่อนทุกครั้ง อธิษฐานเป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศ อันประกอบด้วย ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมบารมี ปัญญาบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี ที่พระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญสั่งสมบุญสร้างบารมีข้ามภพข้ามชาติ การอธิษฐานธรรมหมายถึงการตั้งความปรารถนาที่เป็นกุศลให้สำเร็จด้วยอานุภาพผลบุญที่กระทำไว้ดีแล้ว ๒๔. การทำบุญบังสุกุล สามารถทำได้ในวันเดียวกับการทำบุญเลี้ยงพระ โดยทำหลังคณะพระภิกษุฉันภัตตาหารเรียบร้อยแล้ว เป็นอีกหนึ่งพิธีทำบุญอุทิศกุศลเจาะจงไปยังผู้วายชนม์เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด บรรพบุรุษ และบุพการี เพื่อให้เป็นเสบียงบุญแก่ท่านในสัมปรายภพ สามารถทอดผ้าบังสุกุลวางลงบนภูษาโยงจากอัฐิหรือรูปภาพผู้วายชนม์ ก่อนทอดให้กล่าว นามะรูปัง อนิจจัง นามะรูปัง ทุกขัง นามะรุปัง อนัตตา แล้วทอดผ้าไตรขวางบนภูษาโยง ควรถวายด้วยผ้าไตรที่มีสีตรงกับการนุ่งห่มของวัดนั้นๆ
๒๕. การกรวดน้ำอุทิศกุศล การกรวดน้ำเป็นการอุทิศกุศลไปยังบรรพบุรุษ บุพการี ครูอาจารย์ หมู่ญาติที่ล่วงลับ เจ้ากรรมนายเวร เทวดา สัมภเวสี สรรพสัตว์ สรรพชีวิตในทุกภพภูมิ เป็นต้น บทกรวดน้ำมีสองตอน มีความหมายต่างกัน บทยถาฯให้ผีหมายถึงเทวดาเจ้าที่เจ้าทางและผู้วายชนม์ บทสัพพีฯ ป็นบทขอพรอันมงคลให้บังเกิดต่อตน ดังนั้น เวลากรวดน้ำจึงควรทำสมาธิส่งบุญไปยังบุคคลข้างต้น โดยเทน้ำให้หมดคนโทและประนมมือรับพรพระจนจบ แล้วจึงค่อยนำน้ำไปเทยังโคนต้นไม้ใหญ่เพื่ออุทิศบุญไปยังพระแม่ธรณีและทวยเทพเทวดา ๒๖. การเจิมและการปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ เจ้าภาพกราบนิมนต์ประธานสงฆ์ไปยังที่ๆต้องการเจิม เช่น ประตูทางเข้าออกหลัก ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้เรียบร้อยก่อนเจิม เมื่อท่านเจิมแล้วไม่ควรลบออก การปะพรมน้ำเจ้าภาพอาจนำท่านไปพรมตามห้องต่างๆได้ ในขณะพระสงฆ์พรมน้ำพุทธมนต์ ควรประนมมือรับน้ำพุทธมนต์ด้วยความเคารพอ่อนน้อม
๒๗. การต้อนรับพระ เจ้าภาพควรแสดงความเคารพรอรับพระด้วยตนเอง เมื่อพระมาถึงให้กล่าวคำว่า”นมัสการครับ/เจ้าคะ” พร้อมกล่าวแนะนำตนเอง และกล่าวนิมนต์นำคณะพระภิกษุสงฆ์ไปยังเสนาสนะที่จัดไว้ ๒๘. การส่งพระ เมื่อเสร็จพิธีแล้ว เจ้าภาพกราบขอบพระคุณในความเมตตาที่ท่านได้มาเป็นเนื้อนาบุญ และนำส่งคณะพระภิกษุสงฆ์ไปยังรถ ควรช่วยท่านยกไทยธรรมที่ถวายสังฆทานแล้วไปยังรถ ให้ประนมมือส่งท่านขึ้นรถด้วยความอ่อนน้อมและรอจนกว่ารถจะเคลื่อนตัวออกไปแล้วจึงค่อยเข้าบ้าน
๒๙. งดสุราและอบายมุข การทำบุญคือการนำความมงคลเข้าสู่บ้าน บุคคล และบริษัท ดังนั้นจึงควรงดการเลี้ยงสุรา เล่นการพนัน ในการทำบุญ อันเป็นอบายมุขสู่ความเสื่อม เพราะความเป็นมงคลมิได้เกิดจากการที่นิมนต์พระเจริญพระพุทธมนต์เท่านั้น แต่หากเกิดจากการที่เจ้าภาพกระทำในสิ่งที่เป็นมงคลคือ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ประกอบด้วยเป็นสำคัญ ๓๐. การเชิญแขกร่วมงานทำบุญ ในกรณีที่เป็นการทำบุญบ้าน หากเจ้าภาพจัดงานได้แยกครอบครัวออกมาแล้ว บุคคลสำคัญที่ควรระลึกถึงและเชิญร่วมงานเป็นอันดับแรกคือ "พ่อและแม่" หากท่านมีชีวิตอยู่ ควรเชิญท่านได้ร่วมทำบุญ หากท่านไม่อยู่ ก็ควรทำบุญอุทิศกุศลแก่ท่าน เพราะความกตัญญูต่อพ่อแม่คือความเป็นสิริมงคลอันสูงสุด และยังความปลาบปลื้มให้ท่านได้เห็นความก้าวหน้าและความสำเร็จของเรา ๓๑. การไหว้พระภูมิเจ้าที่ ก่อนที่พระจะเดินทางมาถึงสถานที่ทำบุญ ให้เจ้าภาพจัดเตรียมอาหารคาวหวานทำการสักการะจุดธูป 5 ดอกไหว้พระภูมิเทวาเจ้าที่เพื่อให้ท่านได้มารับเครื่องไหว้ พร้อมทั้งเชิญท่านได้มาร่วมฟังการเจริญพระพุทธมนต์จากคณะพระภิกษุสงฆ์ เพื่อความสุขและความร่มเย็นในการอยู่ร่วมกัน ณ สถานที่นั้นๆ ๓๒. การให้อาหารแก่สัมภเวสี หลังไหว้เจ้าที่แล้ว ให้นำชุดอาหารคาวหวานวางที่หน้าประตูบ้านหรือรั้วนอกบ้านเพื่อจุดธูป 1 ดอกบอกกล่าวอุทิศอาหารนี้แก่สัมภเวสี (วิญญาณเร่ร่อนที่ยังไม่ได้เกิด) ให้เขาได้รับความสุขจากการทำบุญครั้งนี้ด้วย และขอให้เราได้เข้าออกสถานที่นี้ด้วยความสุขและปลอดภัย
๓๓. การทำทาน เมื่อเสร็จพิธีสงฆ์แล้วควรแบ่งอาหารเอื้อเฟื้อให้ญาติมิตร เพื่อนบ้าน หรือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส เช่น รปภ. คนกวาดถนน แม่บ้าน เป็นต้น เช่นนี้แล้วการทำบุญบ้าน บริษัทจึงได้ครบทั้งทำบุญและทำทาน ๓๔. การปฏิบัติตัวของผู้มาร่วมงาน สำหรับผู้ไปงานทำบุญที่ถูกต้องควรปฏิบัติ ๓ ประการ คือ ทำทาน รักษาศีล และฟังการเจริญพระพุทธมนต์ จึงจะเรียกได้ว่าไปงานทำบุญอย่างเต็มปาก ไม่ใช่ไปคุย กินข้าว และกินเหล้า เพราะทั้งสามข้อหลังไม่ได้บุญแม้แต่น้อย ๓๕. การโยงสายสิญจน์ อำนาจพุทธิคุณของพระรัตนตรัยครอบจักรวาลอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ที่สายสิญจน์ที่มักจะไปวนรอบบ้านอย่างไม่รู้ความหมายที่แท้จริง หลักการใช้สายสิญจน์ที่ถูกต้องคือโยงจากพระพุทธเวียนประทักษิณ(ตามเข็มนาฬิกา) มายังขันน้ำมนต์และโยงไปยังคณะสงฆ์ขณะเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเปลี่ยนน้ำเปล่าในขันให้เป็นน้ำมนต์ที่ผ่านการเจริญพระพุทธมนต์บทพระปริต เมื่อเสร็จพิธีแล้วเก็บสายสิญจน์ไว้ไม่ควรนำไปทิ้ง สามารถนำมาใช้ในการทำบุญคราต่อไปได้
๓๖. การเก็บน้ำพระพุทธมนต์ ควรหาภาชนะที่สะอาดเก็บน้ำมนต์นี้ให้ดีเพราะผ่านการเจริญพระพุทธมนต์พระปริตรแล้ว สามารถนำไปใช้ในกรณีล้างหน้าพรมตัวเพื่อเป็นกำลังใจและสิริมงคล ๓๗. การถวายข้าวพระพุทธ ก่อนการถวายภัตตาหาร เจ้าภาพเป็นผู้กล่าวคำถวายข้าวพระพุทธ ดังนี้ อิมัง, สูปะพยัญชะนะ, สัมปันนัง, สาลีนัง, โภชะนัง, อุทะกังวะรัง, พุทธัสสะ, ปูเชมะ. ๓๘. การลาข้าวพระพุทธ และเมื่อเสร็จพิธีแล้วให้ลาข้าวพระพุทธดังนี้ เสสังมังคลายาจามิ ขอส่วนอาหารหยาบเหล่านี้จงสำเร็จประโยชน์แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ๓๙. การเก็บอุปกรณ์ส่งคืนวัด ในกรณีที่เจ้าภาพยืมเสนาสนะอุปกรณ์จัดงานทำบุญมาจากวัด ควรทำความสะอาดและนำส่งคืนวัดให้ครบถ้วนสมบรูณ์ พร้อมควรถวายปัจจัยบำรุงวัดด้วย จึงจะเป็นบุญกุศลที่ครบถ้วนในการทำบุญบ้านบริษัท ฯลฯ
การจัดงานทำบุญบ้านบริษัทเป็นงานที่มีรายละเอียดมาก เจ้าภาพหรือผู้กล่าวอาราธนาต้องทำด้วยความเคารพอ่อนน้อมต่อพระรัตนตรัย หากท่านปรารถนาการทำบุญบ้านบริษัทที่ถูกต้องได้รับความสะดวกและเปี่ยมบุญ ประณีต ปลาบปลื้ม ประทับใจ เดชะบุญขอปวารณาช่วยทำหน้าที่จัดงานทำบุญบ้านบริษัทที่ถูกต้อง ถูกเนื้อนาบุญ ถูกพิธีการ เพื่อให้ท่านได้รับบุญทั้ง๓วาระ คือก่อนทำ (ทำด้วยความรู้ในคุณค่าบุญ) ขณะทำ (มีความปลาบปลื้มในบุญกุศล) และหลังทำ (เมื่อระลึกบุญที่ทำย่อมนำมาซึ่งความสุข)
บทความเรื่องข้อปฏิบัติในการจัดงานทำบุญบ้านบริษัทนี้เขียนจากประสบการณ์การจัดงานทำบุญขณะบรรพชาอุปสมบทของคุณวิสิทธิ์ คุณนิรันดร ผู้ได้รับการอบรมจากครูบาพระอาจารย์ที่มีพรรษามาก ขอมอบความรู้นี้เพื่อประโยชน์ต่อผู้สนใจต้องการจัดงานทำบุญบ้านบริษัท
ขอคำแนะนำการทำบุญทรงคุณค่าได้ที่คุณวิสิทธิ์ คุณนิรันดร วิทยากรบรรยายธรรม และผู้อำนวยการจัดงานทำบุญ ที่ 089-813-5885, 082-651-6246 เดชะบุญยินดีมอบความรู้ให้เป็นธรรมบรรณาการแก่ทุกท่านเพื่อประกอบความดีครับ
ข้อความและบทความประสบการณ์จริงส่วนตัวการจัดงานทำบุญและผลบุญการจัดงานทำบุญบ้านทำบุญบริษัทและอุทิศกุศล ในทุกหน้าที่ปรากฏนี้ได้รับการรับรองแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ เลขที่ 308848 จากสำนักลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ การคัดลอกหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้เพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา |