เกี่ยวกับผู้จัดงาน

"เดชะบุญ" ยินดีต้อนรับครับ

คุณวิสิทธิ์ คุณนิรันดร ผู้ดำเนินการจัดงานทำบุญเดชะบุญ ผู้อบรมและบรรยายธรรมให้กับองค์กรต่างๆ เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมแห่งพุทธปัญญาตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

           ความรู้ ++ ความเชื่อ ++ ความจริง งานทำบุญ 
คุยกับ “วิสิทธิ์ คุณนิรันดร” CEO (Ceremony Event Organizer)
พิธีกรดำเนินการจัดงานทำบุญและวิทยากรบรรยายธรรม “เดชะบุญ”

เมื่อคิดถึงงานทำบุญ คนส่วนใหญ่จะคิดถึงพิธีการที่น่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ คิดถึงมัคนายกคนแก่ผมสีขาวใส่ชุดขาว มีสร้อยลูกประคำหน้าตาดูขึงขังแลดูน่ากลัว พูดจาเข้าใจยาก ออกแนวสัปเหร่อหมอผีทางไสยศาสตร์มากกว่าพุทธศาสตร์

แต่วันนี้คุณจะพบกับการทำบุญทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ ได้ความสุขในบุญบนความสุขกายสบายใจ ไม่ยุ่งยาก เข้าใจง่าย มีพิธีกรที่สามารถบรรยายธรรมให้ความรู้ความหมายแต่ละขั้นตอนอย่างน่าสนใจ และที่สำคัญคือทำบุญแล้วได้บุญกุศล ความสุขใจตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ก่อนหน้าที่จะมาทำงานบุญคุณวิสิทธิ์เป็นกรรมการผู้จัดการดูแลธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและอุปกรณ์ไอทีแนวหน้าของเมืองไทย ทำไมถึงได้ผันตัวจากผู้บริหารระดับสูงมาทำหน้าที่พิธีกรวิทยากรจัดงานทำบุญ เราจะได้มาคุยแนวคิดกับเขาผู้นี้กัน...

“….จริงๆแล้วก็ไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำว่าการที่ได้บรรพชาอุปสมบทเมื่อตอนปี 2526 สมัยเรียนอยู่ธรรมศาสตร์ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นประโยชน์ต่องานบริการจัดงานทำบุญบ้าน ทำบุญบริษัท ได้อย่างอัศจรรย์....."

..… ตอนจบใหม่ๆ ผมก็เหมือนเด็กหนุ่มทั่วไปที่แสวงหาความท้าทายและความก้าวหน้า เปลี่ยนงานใหม่แทบทุกปี จากงานโฆษณาสื่อสารไปงานการตลาด งานขายและเข้าสู่ธุรกิจโทรคมนาคมยุคแรกๆ ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นวิทยุติดตามตัวยี่ห้อโฟนลิงค์ ผมเป็นผู้บริหารคนแรกๆของบริษัทฯ รับผิดชอบการทำโฆษณาและการตลาดจนชื่อโฟนลิงค์ติดปากคนไทยเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว…

..… เมื่อเทคโนโลยี่เปลี่ยน...ผมได้มาเปลี่ยนมาทำโทรศัพท์เคลื่อนที่เวิลด์โฟน และภายหลังเปลี่ยนเป็นdtacที่แทค (Total Access Communication) และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่ทำให้ผมได้มีโอกาสทำงานให้กับคุณบุญชัย เบญจรงคกุล นอกเหนือจากงานบริหารธุรกิจแล้วยังได้มอบหมายให้ผมทำกิจกรรมชมรมพุทธเพื่อส่งเสริมจริยธรรมพนักงานภายในองค์กรให้เป็นคนดีของสังคมโดยมีพระอาจารย์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาแสดงธรรมทุกๆสัปดาห์ หลังจากย้ายมาอาคารเบญจจินดาก็ยังได้รับความไว้วางใจให้เปิดศูนย์ปฏิบัติธรรมอีกที่หนึ่ง แม้งานบริหารที่ทำในขณะนั้นต้องมีความรับผิดชอบมากอยู่แล้ว อีกทั้งต้องเดินทางออกตลาดทั่วประเทศและประชุมตลอดเวลา แต่การที่ได้ฟังธรรมและปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิหลังเลิกงานในทุกๆสัปดาห์ กลับมีผลดีอย่างมากต่อการทำงาน ทำให้มีความละเอียดรอบคอบสามารถนำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้กับงานบริหารได้เป็นอย่างดี ...ซาบซึ้งถึงขนาดได้รับการสนับสนุนให้สามารถลาไปบวชได้อยู่เดือนนึง... นั่นเป็นการบวชครั้งที่ 2 …..

..… ผมผ่านการบวชมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่ได้เป็นชายสามโบสถ์นะ เพราะความหมายชายสามโบสถ์เขาเปรียบถึงคนที่โลเลจับจดเปลี่ยนจากโบสถ์พุทธไปเป็นโบสถ์คริสต์ พอเบื่อก็เปลี่ยนเป็นโบสถ์มุสลิมไปเรื่อย หาดีไม่ได้ซักเรื่องต่างหาก …..

                                                                                   
..… ตอนปี 2554 ผมได้บวชเป็นครั้งที่ 3 ครานี้ได้มีโอกาสติดตามเจ้าอาวาสรับกิจนิมนต์ไปงานทำบุญบ้านโยม ได้เห็นทั้งความตั้งใจและความวุ่นวายของเจ้าภาพในการจัดงานทำบุญที่ต้องเตรียมเสนาสนะพระ ภัตตาหาร ไทยธรรม ของใช้ประกอบพิธีทำบุญต่างๆ และที่มักเป็นปัญหาการทำบุญคือไม่มีพิธีกรที่มีความรู้ในการประกอบพิธีกล่าวคำอาราธนาในแต่ละขั้นตอน ส่วนใหญ่งานทำบุญจึงกลายเป็นภาระของพระที่ต้องทำหน้าที่กล่าวนำให้โยมทุกขั้นตอน เรียกว่านิมนต์พระมาแล้วก็ผลักภาระให้พระดำเนินการทุกอย่างก็ว่าได้…..

..… ก็เลยได้ความคิดว่าน่าจะมีใครให้บริการอำนวยความสะดวกให้ทั้งเจ้าภาพและพระมีความสุขในการทำบุญอย่างถูกต้องและไม่วุ่นวายเป็นการให้การสนับสนุนคนที่อยากทำบุญแต่ไม่รู้ศาสนพิธีได้สามารถทำบุญอย่างง่ายๆสบายๆใจใสๆ…..

        
.....ผมมาคิดดูว่าเมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธ แต่ก็น่าแปลกที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกับการจัดงานทำบุญที่เป็นเรื่องเป็นราว ผิดกับการจัดงานแต่งงานที่มีเป็นร้อยๆทั้งออแกนไนซ์เซอร์ทั้งเว็ดดิ้งสตูดิโอเต็มบ้านเต็มเมือง หรืออาจจะเป็นเพราะสังคมสมัยใหม่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับบุญ แต่ไปยึดติดกับวัตถุนิยม รูปร่างหน้าตา ความหรูหราและเทคโนโลยี่ บางคนถึงกับเชื่อว่า “ทำบุญได้ชาติหน้า ทำหน้าทำตาได้ชาตินี้”…..

.....ความจริงอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธควรรู้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า “สุโขปุญญัสะ อุจจะโย” แปลว่า การสั่งสมบุญ นำสุขมาให้ คนเราทุกคนต่างต้องการความสุข ต่างก็มีวิธีการแสวงหาความสุขที่พิสดารแตกต่างกันไป ไปเที่ยว ไปดื่ม ไปละเล่นสนุกสนาน แก่งแย่งกอบโกย ซึ่งก็เป็นความสุขที่เจือด้วยทุกข์ในบั้นปลาย แต่ความสุขที่แท้อยู่ที่การใช้ชีวิตอย่างมีสติ รู้คุณค่าและดำเนินชีวิตตามหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นความสุขที่แสวงหาได้ภายในไม่ต้องตะเกียกตะกายไปหาไกลที่ไหน...

.....ผมมีแนวคิดว่า การทำบุญควรจะทำด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำอย่างงมงาย ทำตามหมอดูพยากรณ์หรือเพราะซินแสทายทัก ระหว่างหมอดู ซินแส พระพุทธเจ้า เราควรเชื่อใครดี... และอย่าทำแค่ประเพณีให้เสร็จๆไปที เพราะจะไม่ก่อให้เกิดบุญกุศลอันบริสุทธิ์ และที่สำคัญเสียเงินแล้วก็ได้คุณค่าน้อยอีกต่างหาก...

.....ความหมายการจัดงานทำบุญไม่ใช่การขนอาสนะพระมาจัดเรียง ว่าจ้างมัคนายกมากล่าวอาราธนาแค่ลมปาก เจ้าภาพก็ก้มหน้าก้มตามึนๆงงๆ แขกที่มาก็นั่งคุยแข่งกับพระ รอเวลาพระฉันก็กินข้าวพร้อมพระ หนักกว่านั้นก็กินเหล้าเปิดเครื่องเสียงดังๆไม่สนใจบุญกุศล เอาแค่จัดตามประเพณีให้จบๆไป

.....วิธีการที่ผมทำในทุกขั้นตอนการทำบุญ ผมใช้การสื่อสารถึงความหมายของการทำบุญตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยอธิบายความจากภาษาบาลีแปลเป็นภาษาไทยอย่างง่ายๆให้ผู้ร่วมงานบุญรู้ความหมายและคุณค่าของการทำบุญที่ถูกต้องและน่าชวนติดตาม ไม่น่าเบื่อ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาพูดโดยไม่สนใจว่าใครจะเข้าใจหรือเปล่า ที่หนักกว่านั้นบางคนนำกล่าวอาราธนาศีลทั้งที่มีอุปนิสัยฉ้อโกง ผมคิดว่าถ้าคนนำยังไม่เชื่อบาปบุญ ศีลก็ไม่รักษา ก็ไม่ต่างกับให้คนตาบอดนำคนตาดีให้ไปตกเหวตายพร้อมๆกัน...

.....ผมมีโอกาสทำงานสื่อสารกับชาวต่างชาติมาตลอด เมื่อมาจัดงานทำบุญให้กับบริษัทฯที่มีผู้บริหารชาวต่างชาติ ผมจึงใช้โอกาสนี้ดำเนินการจัดงานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อสื่อสารให้ชาวต่างชาติได้เข้าใจถึงคุณค่าพระพุทธศาสนา ไม่ใช่มาร่วมงานแล้วไม่รู้ความหมาย นั่งอึดอัดงงๆให้พิธีการเสร็จๆไป ผมจะอธิบายวัตถุประสงค์การทำบุญ ขั้นตอนการทำบุญ รวมทั้งมีบทกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ ให้ชาวต่างชาติมีส่วนร่วมในการทำบุญด้วย สร้างความประทับใจและได้รับคำชื่นชมจากพระและคนไทยว่าแม้เป็นชาวต่างชาติก็สามารถกล่าวได้อย่างถูกต้อง...

.....ปัญหาที่เจอจากงานทำบุญ ส่วนมากมักจะเป็นเรื่องความรู้และความเข้าใจผิดๆในเรื่องพุทธศาสนา โดยเฉพาะเรื่องทิศและฤกษ์ เชื่อว่าพระต้องหันทิศตะวันออกบ้างล่ะ เชื่อวันธงชัยวันอุบาทว์บ้างล่ะ แท้จริงแล้วเรื่องทิศมงคลและฤกษ์ยามไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญเลย อย่างเรื่องทิศ พระพุทธเจ้าสอนเรื่อง“ทิศ 6” ซึ่งเป็นเหตุแห่งความเจริญความมงคลต่อผู้ปฏิบัติ ประกอบด้วยทิศเบื้องบนสมณะพราหมณ์ ทิศเบื้องหน้าพ่อแม่ ทิศเบื้องขวาครูบาอาจารย์ ทิศเบื้องซ้ายมิตรสหาย ทิศเบื้องหลังครอบครัว และทิศเบื้องล่างผู้ร่วมการงาน คือการมีคุณธรรมต่อทิศทั้งหก เช่นเบื้องบนเราต้องมีความเคารพ เบื้องหน้าต้องมีความกตัญญูกตเวที เบื้องขวาต้องมีความอ่อนน้อม เป็นต้น แต่คนพุทธปัจจุบันกลับเพี้ยนไปเป็นทิศเหนือใต้ออกตก จึงมีค่านิยมผิดๆ ลองดูมั้ยครับว่า ถ้าหันหน้าทิศตะวันออกแล้วไม่ประกอบกรรมดีชีวิตจะรุ่งเรืองได้หรือเปล่า ชาตินี้ก็ไม่ได้ ชาติหน้าก็อย่าหวัง...

.....สำหรับงานทำบุญบ้าน ทำบุญบริษัท หรือจะทำบุญอุทิศกุศลก็แล้วแต่ มีหลักง่ายๆ “5 ส.” ที่ผู้ต้องการทำบุญควรนำไปปฏิบัติคือ สุภาพ-สำรวม-สงบ-สติ-สมาธิ” ถ้าทำได้รับรองได้บุญเน็ทๆ แต่ถ้า...พระสวดก็คุย พระหยุดสวดก็กิน... แบบที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติเวลาไปวัดงานสวดอภิธรรม อันนี้ก็รับรองว่าว่างเปล่าไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย...

.....แตกต่างกันมั้ยจากเดิมงานผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการแล้วมาจัดงานทำบุญ ...บอกตามตรงเลยว่า ฟ้ากับเหวครับ งานทางโลกยิ่งทำยิ่งร้อน ยิ่งสูงยิ่งหนาว ต้องไปฟาดฟันแก่งแย่งกับคู่แข่งสารพัดรูปแบบ แต่มาจัดงานทำบุญตรงกันข้ามเลยครับ ยิ่งทำยิ่งสุข ยิ่งฟังธรรมมากขึ้นยิ่งมีปัญญามากขึ้น อีกอย่างเราผ่านงานทางโลกมาพอสมควร เข้าใจเรื่องโลกธรรม8ของชีวิตดี เห็นทั้งความเจริญและความเสื่อม... เห็นการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ... เห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองของเทคโนโลยี่มาก็เยอะ ผู้คนอาจตื่นเต้นกับการแสวงหาเทคโนโลยี่ใหม่ๆ แต่ผมคิดว่าเราไม่อาจใช้ชีวิตไล่ตามเทคโนโลยี่ที่ไม่รู้จบได้หรอก ชีวิตน่าจะมีอะไรที่ดีกว่าแค่เรื่องงานที่ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ เหลือแต่บุญและบาปที่จะติดตัวได้เท่านั้น...

.....ผมเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษที่ไม่สูญหายครับ เชื่อผลบุญของความอ่อนน้อมความกตัญญูกตเวที เชื่อเรื่องทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เชื่อเรื่องชาตินี้ชาติหน้า เชื่อว่าชีวิตเลือกเกิดได้ล้านเปอร์เซ็นต์ เชื่อผลแห่งบุญว่านำมาซึ่งความสุขที่แท้จริง... มันไม่ใช่เรื่องที่ผมคิดเชื่อไปเองหรอก... เพราะนี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบและถ่ายทอดเป็นพระธรรมคำสอน

.....ถามว่าได้อะไรจากการจัดงานทำบุญ ผมว่าผมได้ความสุขมากเลยนะ เป็นความสุขที่ได้เผยแผ่ความรู้ตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์ที่อบรมสั่งสอนมา ความสุขที่ได้แบ่งปันความรู้ผู้คนให้ได้ทำความดีง่ายๆตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา มีความสุขที่ได้อำนวยความสะดวกและเป็นกำลังใจถวายคณะพระภิกษุสงฆ์ มีความสุขที่ได้ฟังธรรมะ ได้ความรู้ใหม่ๆจากพระอาจารย์วัดต่างๆ และทีสำคัญ...มีความสุขที่ได้เห็นผู้คนมีความสุขจากการทำจัดงานทำบุญของเรา...

แม้กาลเวลาจะผ่านไป แม้เทคโนโลยี่จะเปลี่ยนแปลง สิ่งเดียวที่ไม่แปรเปลี่ยนคือพระสัจจะธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นความดีที่ยืนยง ดังบทกวีที่ว่า 

“พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง

โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี

นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรี

สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา” 

วันนี้เรามาช่วยกันทำอะไรดีๆฝากไว้ในแผ่นดินนี้กันเถอะ

นายวิสิทธิ์ คุณนิรันดร

วิทยากรบรรยายธรรมและผู้อำนวยการจัดงานทำบุญ

การศึกษา

ปริญญาโท : EX.MBA รุ่นที่ 12 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ประกาศนียบัตร : หลักสูตรโทรคมนาคมขั้นสูง มหาวิทยาลัยมหิดล

ปริญญาตรี : คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

มัธยมศึกษา : วัดสุทธิวราราม กรุงเทพมหานคร

การบรรพชาอุปสมบทบวชเรียนทางธรรม

ปี พ.ศ. 2526 โครงการอบรมธรรมทายาท 
พระอุปัชฌาย์สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ

ปี พ.ศ. 2547 โครงการบรรพชาอุปสมบทเข้าพรรษา 
พระอุปัชฌาย์พระธรรมกิตติวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร

ปี พ.ศ. 2554 โครงการบรรพชาอุปสมบทผู้บริหาร 
พระอุปัชฌาย์พระธรรมกิตติวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร

ประสบการณ์ทำงานทางโลก

อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ :บมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริงจำกัด

อดีตกรรมการผู้จัดการ : บริษัท อินแกรม ไมโคร ประเทศไทย จำกัด

อดีตกรรมการผู้จัดการ :  บริษัท ยูไนเต็ด ดิสทริบิวชั่น จำกัด

อดีตกรรมการผู้จัดการ :  บริษัท เวิล์ดเพจ จำกัด

อดีตผู้อำนวยการ : บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด ( dtac )

อดีตผู้อำนวยการ : บริการโทรศัพท์ติดตามตัวPhonelink 

ติดต่อโทรศัพท์ : 082-651-6246, 089-813-5885

Line : หมายเลขโทรศัพท์ 0826516246

Email : dechaboon4u@gmail.com 

Facebook : www.facebook.com/dechaboon4u