ทำบุญอุทิศกุศล 7 วัน 50 วัน 100 วัน คนตายมีทุกๆวัน มีทุกเพศทุกวัย ทุกฐานะ อาชีพ การศึกษา หน้าที่การงาน ฯลฯ มีทั้งเสียชีวิตตามอายุขัยอันควร ด้วยโรคภัย อุบัติเหตุ หรือแม้แต่ฆ่าตัวตายอัตวินิบาตกรรม แต่ใช่ว่าทุกรายที่เสียชีวิตจะได้รับการทำบุญอุทิศกุศล 50 วัน 100 วัน อย่างถูกหลักธรรมทุกราย อะไรคือสาเหตุเช่นนั้น จากประสบการณ์จัดงานทำบุญมายาวนานของเดชะบุญ บ่งบอกได้ว่าไม่ใช่เพราะฐานะหรือการศึกษาแต่อย่างใด เพราะมีครอบครัวที่ฐานะธรรมดาจำนวนมากใส่ใจทำบุญ 50-100 วันให้ผู้วายชนม์ แต่ในทางกลับกันครอบครัวที่แม้มีฐานะดีการศึกษาสูงกลับละเลยที่จะทำบุญอุทิศกุศลในวาระสำคัญ 50-100 วันให้ผู้วายชนม์ เหตุผลหลักสองประการที่เป็นเช่นนี้คือ ประการที่หนึ่งคือบุญวาสนาในกาลก่อนของผู้วายชนม์เองที่สั่งสมไว้ว่ามีมากพอที่จะได้รับการอุปถัมภ์อุทิศกุศลจากครอบครัวหรือไม่ ประการที่สองคือการเข้าถึงองค์ความรู้หลักธรรมในคุณค่าความสำคัญการทำบุญอุทิศกุศลของครอบครัวผู้วายชนม์เอง แอดไลน์ โทรสอบถาม
Line 0826516246 โทร 0898135885
#ตายแล้วไม่สูญ #ตายแล้วไปไหน ครอบครัวต้องรู้ “วิธีทำบุญ 50-100 วัน” แบบถูกวิธี
1. ตายแล้วไม่สูญ บาปบุญมีผลต่อภพภูมิใหม่
2. ทุกวัดมีเทวดาเจ้าที่คุ้
3. บ้านคือสถานที่ผู้วายชนม์ผูกพัน การทำบุญ 50 วัน 100 วัน ที่บ้านของผู้ตายด้วยการนิมนต์
4. การทำบุญศตมวาร 100 วัน ไม่สามารถทำเลย 100 วัน เพราะเลยจากวันที่พระยายมราชพิ
5. พิธีทำบุญ 50 – 100 วัน ไม่เหมือนพิธีทำบุญบ้านโดยสิ้
6. เดชะบุญจัดงานทำบุญปัญญาสมวาร 50 วัน และศตมวาร100 วัน ด้วยผู้ศึกษาธรรมะปฏิบัติธรรมมี
7. อย่าทอดทิ้งให้ผู้ตายต้องอ้างว้
8. เพราะความเชื่อไม่ใช่ความจริ
ด้วยความปรารถนาดี
ผู้อำนวยการจัดงานทำบุญเดชะบุญ
อาจารย์วิสิทธิ์ คุณนิรันดร / โทร 0826516246 , 0898135885
นักธรรมตรี ธรรมศึกษาชั้นตรี-โท-เอก
เพิ่มเพื่อนไลน์ 0826516246
"บุญเท่านั้นคือเสบียงเดินทางสู่สุคติภูมิ"
ทรัพย์สินใดๆไม่สามารถนำไปได้ เว้นแต่บุญและบาป
ทำบุญบ้าน ไม่เหมือน ทำบุญ 50- 100 วัน อุปมากินยาต้องถูกโรค สวดมนต์ต้องถูกกาละ งานบุญพิธี มีสองประเภทคืองานมงคลและงานอวมงคล มีความแตกต่างทั้งบทบาลีและวิธีการโดยสิ้นเชิง สลับแทนแทนกันไม่ได้ แม้นประชาชนทั่วๆไปอาจไม่มีความรู้ความชำนาญในบุญพิธี อย่างไรก็ตาม เดชะบุญปรารถนาดีขอมอบธรรมบรรณาการให้ท่านมีความรู้ในบุญพิธีพอสังเขปแบบง่ายๆ ดังนี้ 1. งานมงคล หมายถึงการทำบุญเพื่อให้เกิดความสุขสวัสดีและความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ญาติพี่น้อง ครอบครัว บริษัทบริวาร หรือบุคคลอื่นที่มีความปรารถนาดีต่อกันความเป็นสิริมงคลแก่สถานที่ บุญพิธีงานมงคลประเภทนี้เรียกว่า “เจริญพระพุทธมนต์” 2.งานอวมงคล คือการทำบุญอุทิศให้แก่บรรพบุรุษ หรือบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว เช่น งานศพ งานทำบุญอุทิศกุศลปัญญาสมวาร 50 วัน งานทำบุญอุทิศกุศลศตมวาร 100 วัน เพื่ออุทิศบุญกุศลแก่ผู้วายชนม์ บรรพชน บุพการี ผู้วายขนม์ล่วงลับ บุญพิธีงานอวมงคลประเภทนี้เรียกว่า “สวดพระพุทธมนต์" บุญพิธีเจริญพระพุทธมนต์ มีโยงสายสิญจน์ มีตั้งขันน้ำมนต์ มีการเจิมยันต์ และมีการพรมน้ำมนต์ ศาสนพิธีกรมีการอาราธนาพระปริต คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ใช้บทเจ็ดตำนานสิบสองตำนาน มีการขัคสักเคฯชุมนุมเทวดา มีการกล่าวถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน เป็นต้น แต่การประกอบพิธีบุญอวมงคล ไม่มีโยงสายสิญจน์ ไม่ตั้งขันน้ำมนต์ ไม่มีการเจิมยันต์ และไม่มีการพรมน้ำมนต์ ศาสนพิธีกรกล่าวอาราธนาธรรมนิยาม คณะสงฆ์สวดพุทธมนต์ด้วยบทธรรมนิยาม ไม่ต้องมีการขัคสักเคฯชุมนุมเทวดา มีการกล่าวถวายบังสุกุล ใช้ภูษาโยงจากรูปหรือรายชื่อผู้วายชนม์เพื่อทอดผ้าบังสุกุล และกล่าวถวายมตกภัตตาหารเป็นสังฆทาน เป็นต้น ทุกๆงานอุทิศกุศล 50-100 วัน เดชะบุญประกอบบุญพิธีด้วยภูมิธรรมความรู้อันเป็นสัมมาทิฏฐิ พร้อมมอบความรู้ให้ครอบครัว/ผู้ร่วมงานทำบุญทุกท่านได้เช้าใจและเข้าถึง ด้วยเป้าหมายสำคัญคือ ผู้วายชนม์ต้องได้รับสูงสุด เพราะเมื่อครอบครัว/ผู้ร่วมงานทำบุญ เข้าใจ ตั้งใจ เข้าถึงบุญมากเท่าไร เมื่อกรวดน้ำอุทิศกุศลผู้วายชนม์ย่อมได้รับผลการอุทิศกุศลสูงสุดเช่นกัน จึงแตกต่างกับงานศพสวดอภิธรรมทั่วๆไปที่วัด ที่ขณะพระสวดครอบครัวก็มักขาดสติด้วยความโศกเศร้า แขกร่วมงานศพก็นั่งคุยบ้างเล่นโทรศัพท์บ้างในขณะพระสวด ดังนั้นเมื่อกรวดน้ำอุทิศจึงเป็นโมฆะมีแต่ความว่างเปล่าไม่มีกุศลใดๆต่อผู้วายชนม์ บันทึกและแบ่งปันเป็นธรรมทานโดยอาจารย์วิสิทธิ์ คุณนิรันดร ติดต่อสอบถามจองบริการจัดงานทำบุญ 50-100 วัน 082-651-6246 , 089-813-5885 แอดไลน์ โทรสอบถาม
Line 0826516246 โทร 0898135885
พิธีจัดงานทำบุญอุทิศกุศล
ปัญญาสมวาร50วัน / ศตมวาร100วัน
*เดชะบุญยินดีมอบธรรมทานด้วยความเคารพในธรรมก่อนการประกอบศาสนพิธี
*เดชะบุญให้ความเคารพต่อผู้ต้องการประกอบศาสนพิธีทุกท่านด้วยความเสมอภาค
*เดชะบุญปฏิเสธการจัดงานทำบุญที่มีการเลี้ยงสุราและอบายมุขทุกประเภท
*เดชะบุญประกอบศาสนพิธีตามลำดับสิทธิการจองล่วงหน้า
*เดชะบุญเชื่อใจให้เกียรติทุกท่าน สามารถจองวันโดยไม่ต้องโอนชำระมัดจำล่วงหน้า
*ชำระมัดจำ 5,000 บาทเพื่อยืนยันการนิมนต์พระหลังจากได้พบเดชะบุญแล้วเท่านั้น
*ติดต่อเดชะบุญ สอบถามรายละเอียดโทร 0898135885 หรือ Line หมายเลขโทร 0826516246
1. พิธีสวดพระพุทธมนต์ธรรมนิยามอุทิศกุศลแด่ผู้วายชนม์ (เพล)
1.) เดชะบุญจัดบรรยายธรรมคุณค่าการทำบุญสามวาระแก่เจ้าภาพเพื่อสัมมาทิฏฐิก่อนการทำบุญ
2.) แนะนำการจัดสถานที่ประกอบพิธีฯอย่างถูกต้องตามหลักพุทธศาสนพิธี
3.) ติดต่อนิมนต์คณะพระภิกษุสงฆ์ ประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์ธรรมนิยาม
4.) จัดพาหนะรับส่งพระจากวัดในเขตจัดงานมายังสถานทีจัดงานทำบุญ
5.) จัดชุดโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระพุทธ และเสนาสนะต้อนรับคณะพระภิกษุสงฆ์
6.) จัดดอกบัวสดถวายพระพุทธ และพวงมาลัยถวายคณะพระภิกษุสงฆ์
7.) จัดอุปกรณ์เครื่องใช้สงฆ์ประกอบศาสนพิธีครบถ้วนด้วยความสะอาดประณีตงดงาม
8.) จัดชุดเครื่องขยายเสียงและลำโพงแบบพกพาใช้ในการประกอบศาสนพิธี
9.) จัดศาสนพิธีกรผู้ชำนาญการดำเนินศาสนพิธีในทุกขั้นตอนตลอดการประกอบพิธี
10.) จัดชุดกี๋มุกพร้อมภาชนะเบญจรงค์ถวายน้ำชาร้อนและน้ำดื่มถวายคณะพระภิกษุสงฆ์
2. พิธีถวายมตกภัตเพื่อผู้ล่วงลับไปแล้วอุทิศกุศลแด่ผู้วายชนม์ (เพล)
1.) จัดโต๊ะไลน์บุฟเฟต์พร้อมถาดร้อนอุ่นอาหารคาวหวานพร้อมภาชนะ
2.) จัดภัตตาหารคาวหวานถวายพระพุทธ 1 ชุด
3.) จัดภัตตาหารคาวหวานถวายคณะสงฆ์
4.) จัดอาหารหวานคาวสักการะเจ้าที่ 1 ชุด
5.) จัดอาหารหวานคาวแก่ผู้วายชนม์ 1 ชุด
6.) จัดบทคำกล่าวถวายข้าวพระพุทธและมตกภัตตาหารแก่ครอบครัวผู้วายขนม์
3. พิธีทอดผ้าบังสุกุลและถวายสังฆทานอุทิศกุศลแด่ผู้วายชนม์ (เพล)
1.) จัดชุดผ้าไตรเต็มดำเนินศาสนพิธีทอดผ้าบังสุกุลน้อมอุทิศกุศลแก่ผู้วายชนม์ถวายต่อคณะพระภิกษุสงฆ์
2.) จัดชุดไทยธรรมอันประณีตมีประโยชน์ถวายเป็นสังฆทานแด่คณะพระภิกษุสงฆ์
3.) จัดโต๊ะตั้งภาพผู้วายชนม์พร้อมดอกไม้สักการะแก่ผู้วายชนม์
4.) จัดผ้าภูษาโยงและชุดกรวดน้ำอุทิศกุศลแก่ผู้วายชนม์
5.) จัดเตรียมสถานที่ล่วงหน้า 1 วันและทบทวนความรู้การประกอบศาสนพิธีแก่ครอบครัวผู้วายชนม์ก่อนการประกอบพิธี
สอบถามเพิ่มเติมที่Line
เดชะบุญเป็นกัลยาณมิตรประกอบศาสนพิธีต่อผู้วายชนม์ดุจญาติมิตร
เดชะบุญเป็นหนึ่งประกอบศาสนพิธีด้วยหลักธรรมเปี่ยมบุญประณีตปลาบปลื้ม
เดชะบุญจิตเมตตาจัดงานทำบุญ 100 วัน แด่ครอบครัวผู้ยากไร้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ*
โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สอบถามและแจ้งวันล่วงหน้าที่ 0826516246
*พื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล
รีวิวความทรงจำทำบุญ 50 วัน และ 100 วัน อันนี้เป็นความรู้สึกของพวกเราทั้ง 3 คนนะคะ มาจากใจของพวกเราจริงๆค่ะ หวังว่า ความรู้สึกดีๆนี้อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้บางคนได้นะคะ เพราะความคิดถึงแม่จึงนำพามาให้รู้จัก"เดชะบุญ"…
เราเริ่มต้นจากการหาข้อมูลในกูเกิ้ลเรื่องทำบุญครบรอบ 50 วัน มีข้อมูลขึ้นเยอะมาก เราตั้งใจอ่านแต่ละที่ และ รู้สึกว่า “เดชะบุญ” น่าจะตอบโจทย์มากที่สุด จึงได้ติดต่อและเมื่อได้พูดคุยกับ อ.วิสิทธิ์ ผ่านทางโทรศัพท์ และ ฟังบรีฟครั้งแรกที่บ้าน ท่านได้อธิบายถึงการจัดพิธีการที่ถูกวิธี เพื่อให้แม่ได้บุญกุศลสูงสุด และยังได้สนทนาธรรมกับเราสามพี่น้องถึงความหมายของบุญและการอุทิศบุญได้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจในโลกหลังความตายของมนุษย์ได้ถ่องแท้ขึ้น เราสามพี่น้องจึงตัดสินใจให้ทีมงาน"เดชะบุญ"เป็นผู้ประกอบพิธีอุทิศบุญ 50 วันให้แม่ผู้เป็นที่รักของเราโดยไม่ลังเล
เมื่อถึงวันกำหนดการ "เดชะบุญ"ได้ประกอบพิธีให้แม่อย่างสมศักดิ์ศรีและมีคุณค่ายิ่ง ทุกคนที่มาร่วมงานชื่นชมว่าพิธีการจัดสมบูรณ์แบบ สวยงามและใส่ใจในทุกๆรายละเอียดและ ขอชื่นชม อ.เจี๊ยบ เป็นบุคคลที่มีความรู้และความชำนาญ นำพาพิธีการได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน และสิ่งที่สำคัญที่ “เดชะบุญ” ไม่เพียงแต่ประกอบพิธีอย่างสมบูรณ์แล้ว ยังได้น้อมนำพวกเราให้รู้จักตอบแทนบุญคุณพ่อผู้ยังอยู่กับเราอย่างทันเวลา พวกเราจึงตัดสินใจให้ทาง “เดชะบุญ” ประกอบพิธีอุทิศบุญ 100 วันต่อให้แม่ด้วยเพื่อให้แม่ได้รับบุญมหากุศล และนำทางให้แม่ผู้เป็นที่รักของเราเดินทางไปสู่ “สุคติภูมิ” ขอบคุณ"เดชะบุญ"ที่เป็นสะพานบุญให้เราสามคนพี่น้องได้อุทิศบุญให้พ่อแม่อย่างถูกวิธี และมีสติปัญญาในการใช้ชีวิตให้มีความกตัญญู กตเวที และ ทำบุญกุศลอย่างต่อเนื่อง ตราบสิ้นลมหายใจ เอิงรู้สึกดีมาก และ ขอบคุณแม่ที่ช่วยให้ในชีวิตนี้ได้รู้จัก คนดีๆคือพี่ทั้งสอง พี่วิสิทธิ์ และ พี่เจี๊ยบ นะคะ จากลูกๆครอบครัวคุณแม่ศิริพรรณ ขิวธนาสุนทร
บ้านบัวทอง บางใหญ่ นนทบุรี
รีวิวความประทับใจจัดงานทำบุญ 100 วัน
ไม่เคยทำบุญครั้งใด แล้วรู้สึกอิ่มเอมขนาดนี้ สำหรับความประใจในงานครั้งนี้ของพี่น้องทั้ง 4 คน “ภูมิใจที่ผู้ร่วมงาน ตั้งใจร่วมงานบุญอย่างมีสติ ตามคำแนะนำของวิทยากร ” …..นก “ดีทุกอย่าง ผู้ร่วมงานชื่นชมและตั้งใจทำพิธี รู้สึกปลื้มปริ่ม ที่ได้ทำบุญให้คุณแม่ ”….เจี๊ยบ “ เป็นการทำบุญ ที่ได้ความรู้มากที่สุด ไม่ใช่ความรู้เกี่ยวกับทำพิธีการเพียงอย่างเดียว รวมไปถึงความหมายของผลไม้, ของที่เลือกใช้, การใช้ชีวิต, การใช้สติ ”……น้องเล็ก “ขอบคุณความรู้ที่แนะนำให้เราเข้าใจวิธีปฏิบัติและความหมายของแต่ละพิธีการ ” …….ใจรัก ไม่เพียงแต่เจ้าภาพ หรือผู้ร่วมงานที่รู้สึกประทับใจ พระสงฆ์ที่ร่วมทำพิธี ยังกล่าวคำชื่นชมและประทับใจทีมงาน “เดชะบุญ” ที่สามารถจัดงานและพิธีการได้สมบูรณ์แบบมากๆ การร่วมบุญกันครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และไม่ใช่ครั้งสุดท้ายขออนุโมทนา สาธุ ในการร่วมบุญในครั้งนี้และเราจะได้ร่วมบุญกันอีกในอนาคต ขอบคุณค่ะ ครอบครัวคุณแม่ศรีวิมล เดชชินบัญชร รีวิวความทรงจำทำบุญปัญญาสมวาร 50 วัน จากการสูญเสียลูกชาย (น้องจาว้า) ด.ช.วิษณุวัชร์ จิตตรัชตะกาญจน์ ผู้เป็นที่รักเพียงคนเดียว ซึ่งเกิดจากความประมาท(อุบัติเหตุ) ทำให้น้องจากไปภายในวัยเพียง 4 ขวบ ทำให้เกิดคำถามมากมายในหัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลูกจะเจ็บมากมั้ยตอนนั้น ตายแล้วไปไหน เป็นกรรมอะไร ความบังเอิญไม่มี จริงมั้ย ตายก่อนหมดอายุขัยมีจริงมั้ย (ฉันต้องหาคำตอบ )และสิ่งเเรกที่คิดเป็นสิ่งเดียวคือ อยากทำบุญให้ลูก และอยากให้ลูกได้รับบุญจริงๆ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ลูกเอาไปได้ จากที่ฟังจากพระมา จนได้มาเจอ เดชะบุญ ซึ่งตรงกับความรู้สึกนึกคิดของแม่ ที่ตั้งใจจะทำบุญ 50 วัน 100 วัน ให้น้องจาว้า และจนได้พูดคุยกับคุณวิสิทธิ์ คุณนิรันดร ท่านให้คำแนะนำที่ดีมาก และสิ่งที่พิเศษไปกว่านั้น คำถามทุกสิ่งอย่างที่คาใจและอยู่ในหัว ได้รับคำตอบทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน มันทำให้เราต้องศึกษาเรื่องชีวิตหลังความว่า ตายแล้วไม่สูญ คือ อะไร และแล้วไปไหน ทั้งๆที่ความรู้เหล่านี้มีมานานแล้ว ถ้าไม่ได้เจอการสูญเสียครั้งนี้ ก็ไม่มีทางได้เรียนรู้กว่ามันมีที่ๆจะต้องเดินทางต่อ
นอกเหนือจากการเป็นมนุษย์อยู่บนโลก ท่านได้โทรคุยให้กำลังใจและความรู้ตลอด จนถึงวันงาน ปัญญาสมวาร ของน้อง ซึ่ง เดชะบุญ ได้ดำเนินการทำพิธี ให้การจัดงานทำบุญเป็นไปอย่างถูกต้อง ตามหลักศาสนพิธี ที่สำคัญเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกขั้นตอนตลอดเริ่ม จนจบงาน รวบถึงสิ่งแรกเลยที่ต้องทำจิตใจให้สงบก่อน เตรียมพร้อมการทำบุญ (ไม่รู้มาก่อนอีก)ทำให้รู้สึกซาบซึ่งใจ ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณมากๆ (อยากขอบคุณหลายๆครั้ง) และประทับใจเป็นอย่างมาก ในความตั้งใจประกอบพิธีการอุทิศบุญให้น้องจาว้า (ทุกคนในครอบครัวรักน้องมาก และตั้งใจทำบุญให้น้องมาก) ที่ออกมาทำให้มั่นใจว่าน้องได้รับบุญอันบริสุทธ์ และมีสุคติเป็นที่ไป... คำพูดนึ่งของท่านที่ทำให้ใจฟูคือ **จากกันแค่ชั่วคราว เดียวก็ได้เจอกันอีก**(คิดในใจลูกดลจิตดลใจส่งมาให้ได้เจอ คุณวิสิทธิ์ เดชะบุญ ) ทำให้แม่คนนึงคลายทุกข์ ยิ้มรับและยินดีกับการจากไปของลูกได้ (คิดว่าน้องจาว้าก็ไม่อยากให้แม่เสียใจ)ลูกได้เป็นครูให้แม่ ...ในท้ายที่สุดอยากฝากถึงทุกคนขอให้ใช้ชีวิตอยากมีสติทุกขนาดจิต รวบถึงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท.
(คุณแม่น้องจาว้า) สุขสวัสดิ์ ดาวคะนอง กรุงเทพฯ รีวิวความปลาบปลื้มทำบุญอุทิศกุศล 50 วัน ขอบคุณ คุณวิสิทธิ์ จากเดชะบุญนะคะ ที่ทำให้งานทำบุญปัญญาสมวารของคุณพ่อสำเร็จอย่างประณีต งดงาม ทั้งการจัดโต๊ะ ภาชนะที่ใส่ของถวายพระ ผ้าไตรจีวร ไทยธรรม พวงมาลัยสวยมาก ๆ ด้วย และยังให้ความรู้ในระหว่างการทำบุญแต่ละขั้นตอน คนที่มาร่วมงานบอกไปงานมาเยอะแต่ไม่เคยมีใครมาบอกแบบนี้เลย
คำว่าปัญญาสมวาร เพิ่งมาทราบจากเดชะบุญนี่ล่ะค่ะ ปกติเรียกว่าทำบุญ 50 วันกัน และอีกหลายเรื่องในการทำบุญ ซึ่งก็ทำตาม ๆ กันมา ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร ทำไปทำไม
ที่จริงได้นิมนต์พระไว้แล้วว่าจะไปทำบุญที่วัด ด้วยสถานที่ที่บ้านพื้นที่น้อย แต่ในใจยังรู้สึกติด ๆ เหมือนค้างคาใจเพราะคุณพ่ออยู่ รพ. 2 เดือนจนจากไป ก่อนหน้านั้นคือคุณพ่ออยากกลับบ้านตลอด แล้วตัวเองก็อยากรู้ว่าจะต้องทำ ทำบุญ 50 วัน 100 วัน ยังไง ที่จะให้คุณพ่อได้รับกุศลผลบุญได้มากที่สุด ไม่ได้จะแค่ทำให้ผ่าน ๆ ไปว่าทำแล้ว
เลยค้นหาในกูเกิ้ลว่าทำบุญ 50 วัน 100 วัน ต้องทำอะไร ยังไงบ้าง ก็เจอที่เค้ารับจัดทำบุญให้หลายที่เลย แต่มาสะดุดกับชื่อเดชะบุญ ว่าต้องสวดธรรมนิยามซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็เลยคลิกเข้าไปดู เห็นมีอธิบายเรื่องการทำบุญ 50 วัน 100 วัน ตรงกับที่อยากรู้ จึงติดต่อทางไลน์ของเดชะบุญ คุณวิสิทธิ์ก็ตอบกลับมาให้ความรู้ในเรื่องการทำบุญ 50 วัน 100 วันอย่างละเอียด ทำให้ตัดสินใจเลือกเดชะบุญมาจัดงานให้คุณพ่อ พบกันอีกครั้งในวันทำบุญศตมวารให้คุณพ่อนะคะ ครอบครัวสุนทรอำไพ
หมู่บ้านพฤกษา 9 คลองสาม คลองหลวง ปทุมธานี
ความเชื่อ กับ ความจริง เรื่องความตาย ความแตกต่างที่ต้องรู้ ความเชื่อ คือสิ่งที่เชื่อหรือบอกต่อๆกัน บ้างเป็นทัศนคติส่วนตัว บ้างเป็นค่านิยมของกลุ่มสังคม บ้างเป็นความเชื่อมีทั้งถูกและผิดปะปนกันไป ความเชื่อมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา และความเชื่อมักไม่ถูกต้องเสมอไป ความจริง คือสิ่งที่เป็นหลักเหตุและผล เป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่ได้ผ่านการพิสูจน์ในความถูกต้อง เป็นสัจจธรรมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นหลักธรรมชาติที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา และแม้ไม่เชื่อหรือไม่ยอมรับก็เป็นความจริงเสมอไป ตัวอย่างความเชื่อและความจริงที่ใกล้ตัวคือเรื่องโลก ในอดีตมนุษยชาติมีความเชื่อว่า “โลกแบน” หากแล่นเรือออกไปไกลๆจะตกขอบโลกตาย จนเมื่อ 300 ปีที่ผ่านมาได้มีนักวิทยาศาตร์พิสูจน์ว่าโลกกลม ความจริงก็คือแม้ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดบอกว่าโลกกลม โลกดวงนี้ก็กลมเช่นนั้นมาเป็นล้านๆปีแล้ว ไม่ใช่กลมเพราะมีนักวิทยาศาสตร์มาบอกว่าโลกกลม ฉันใดฉันนั้น เรื่องกฏแห่งกรรม เรื่องภพภูมิ เรื่องนรกสวรรค์ ไม่ใช่เป็นเรื่องมีอยู่หรือไม่มีอยู่เพราะความเชื่อของศาสนาหนึ่งศาสนาใด แต่เป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบรู้แจ้ง และนำความจริงที่เป็นกฏธรรมชาติสากลจักรวาลมาสื่อสารบอกต่อ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่มีพระเจ้าองค์ใดกำหนดให้เป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ความรู้เรื่องชีวิตหลังชีวิตจึงเป็นความจริงที่ต้องศึกษาหาความรู้ โดยไม่ด่วนเอาความเชื่อส่วนบุคคลที่ขาดความรู้จริงมาตัดสินว่า ตายแล้วสูญ ชาตินี้ชาติหน้าไม่มีจริง ภพภูมิเป็นเรื่องคิดเอาเอง กรรมดีกรรมชั่วไม่มีผล จนรวยเป็นเรื่องดวง สูงต่ำเป็นเรื่องวาสนา ฯลฯ เพราะในวัฏสงสารนี้ไม่มีคำว่า “บังเอิญ” ทุกอย่างมีเหตุที่มาและมีผลที่เป็นเสมอ โปรดแสวงหาความรู้เพื่อพบความจริง เพราะการทำบุญอุทิศกุศลต้องใช้ปัญญานำเงินตรา ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต ปัญญาเป็น ด้วยความปราถนาดี อาจารย์วิสิทธิ์/เดชะบุญ 0898135885 Line หมายเลขโทรศัพท์ 0826516246 ตายแล้วไม่สูญ !!!
แล้วไปที่ไหน ???
พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
อดีตเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (วัดท่าซุง)จังหวัดอุทัยธานี
ผู้มีชื่อเสียงในด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานจนได้วิชามโนมยิทธิ
ตายแล้วไปไหน ? ความตายเป็นเรื่องสากลโลก ไม่จำกัดเพศ วัย เผ่าพันธุ์ ความเชื่อ เชื้อชาติ ศาสนา ทุกๆสรรพชีวิตในสังสารวัฏล้วนตกอยู่ในสภาวธรรมและกฎแห่งกรรมเดียวกัน มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกดับ วนเวียนไม่สิ้นสุด แม้กายเนื้อจะแตกดับ แต่ดวงจิตยังคงเดินทางเปลี่ยนภพภูมิตามกรรมที่ได้กระทำไว้ จิตจะหยุดเดินทางก็ต่อเมื่อหมดสิ้นอาสวะกิเลสเข้าสู่พระนิพพานเท่านั้น เสบียงในการเดินทางของดวงจิตคือบุญและบาปที่ได้ก่อไว้ กระทำกรรมดีหรือกรรมชั่วย่อมมีปลายทางรองรับผลของกรรมนั้น ตายแล้วจึงไปตามกรรม ดังพุทธพจน์ ยัง กัมมัง กะริสสามิ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาโทภะวิสสามิ เราทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
ทำไมต้องทำบุญ 7-50-100 วัน
เพื่ออุทิศบุญแก่ผู้วายชนม์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงชีวิตหลังความตายไว้ดังนี้ "จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกังขา" เมื่อจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง สุคติเป็นที่ไป "จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคติ ปาฏิกังขา" เมื่อจิตเศร้าหมองไม่ผ่องใส ทุคติเป็นที่ไป ดังนั้นชีวิตจึงไม่ได้จบสิ้นสุดที่ลมหายใจเฮือกสุดท้าย แต่ทุกสรรพชีวิตตราบใดยังไม่ได้หมดสิ้นอาสวะกิเลสบรรลุมรรคผลนิพพาน ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร จิตดวงเดิมนี้ยังคงต้องเดินทางไปสู่ภพภูมิในสองภพภูมิคือสุคติภูมิและหรือทุคติภูมิ การทำบุญอุทิศกุศลสู่ผู้วายชนม์เนื่องในวาระทำบุญครบ 7 วัน ทำบุญวาระ 50 วัน และทำบุญวาระ 100 วัน จึงมีความสำคัญมากต่อบุคคลที่เรารักและเคารพ เพราะจะเป็นกำลังเสบียงบุญให้ดวงจิตผู้วายชนม์สามารถเดินทางไปยังภพภูมิสุคติที่ดียิ่งๆขึ้นไป
ทำบุญ 7 วัน สัตมวาร คือ ช่วงที่กายละเอียดหลุดออกจากกายหยาบ ผู้ตายจะยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ สำหรับกรณีผู้ที่ยังไม่ได้ไปมหานรก หมู่ญาติก็จะได้มีโอกาส 7 วันนั้น ทำบุญอุทิศไปให้ได้
ทำบุญ 50 วัน ปัญญาสมวาร คือ ช่วงที่กำลังรอเวลาการพิพากษาจากพญายมราชในยมโลก
ทำบุญ 100 วัน ศตมวาร คือ ช่วงที่ระหว่าง 50 ถึง 100 วัน คือ ช่วงพิพากษาและส่งไปเกิด เช่น ไปเกิดในมหานรก ไปยมโลก ไปเป็นมนุษย์ เป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน หรือไปเป็นเทวดา เป็นต้น ทั้งสามช่วงนี้ คือ 7 วัน 50 วัน 100 วัน กายละเอียดจะยังรับบุญได้ นี่คือ หลักการส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด (เว้นแต่ผู้กระทำบาปกรรมหนักที่จะดิ่งสู่ทุคติภูมิทันที) เพราะฉะนั้น ภายใน 7 วัน 50 วัน หรือ 100 วัน จึงจำเป็นต้องทำบุญต่างๆให้เต็มกำลัง แล้วอุทิศบุญนั้นๆไปให้ผู้วายชนม์
วิธีการทำบุญเพื่ออุทิศกุศลแด่ผู้วายชนม์ สามารถทำได้ทุกๆที่แม้กระทั่งที่บ้าน ด้วยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ และนั่งสมาธิ อุทิศผลบุญนั้นๆแด่ผู้วายชนม์ โดยเฉพาะในวาระ 7 วัน 50 วัน และ 100 วัน หลังเสียชีวิต (สามารถทำก่อน 7-50-100 วันก็ได้ เพื่อให้ได้รับบุญก่อน) ควรทำบุญใหญ่เช่น การบรรพชาอุปสมบท การถวายองค์พระ ตลอดทั้งนิมนต์คณะสงฆ์มายังบ้านที่ท่านเคยอยู่อาศัย เพื่อสวดพุทธมนต์ธรรมนิยาม ถวายมตกภัตและทอดผ้าบังสุกุล อุทิศกุศลไปยังผู้วายชนม์ เดชะบุญ ให้บริการจัดงานทำบุญ พิธีทำบุญ 50 วัน 100 วัน ด้วยภูมิธรรมตามหลักพุทธศาสนพิธีที่ถูกต้อง เป้าหมายสำคัญในการทำบุญอุทิศกุศลคือเพื่อให้ผู้วายชนม์ได้รับบุญกุศลจากการประกอบศาสนพิธีโดยมีคณะสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญ ไม่ใช่ทำเพียงแค่ประเพณีที่ไม่รู้ความหมาย เดชะบุญให้ความเคารพต่อผู้วายชนม์ทุกๆท่าน โดยไม่ได้คำนึงถึงชนชั้น ชาติตระกูล ฐานะการเงิน ฐานะการงาน ตำแหน่งหน้าที่ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล การศึกษา หรือขนาดความใหญ่โต รายได้ในการจัดงาน ขอเพียงเจ้าภาพมีความเคารพในธรรม งดอบายมุขและเลี้ยงสุราในการทำบุญ เดชะบุญยินดีดำเนินการจัดงานทำบุญด้วยความเคารพและปรารถนาดีต่อผู้วายชนม์ให้ได้ประสบสุขในสัมปรายภพที่ดี
โทรติดต่อจองวันการจัดงานทำบุญ 50 วัน 100 วัน ได้ที่
อาจารย์วิสิทธิ์ คุณนิรันดร 089-8135885, 0826516246
พิธีทำบุญปัญญาสมวาร 50 วัน และศตมวาร 100 วัน
คุณไพโรจน์ ใจสิงห์
ดาราศิลปินผู้มากความสามารถขวัญใจชาวไทย
"...ในวันครบรอบการทำบุญอุทิศกุศล 50 วัน และ 100 วัน การจากไปของคุณพ่อไพโรจน์ ใจสิงห์ ครอบครัวได้ค้นคว้าหาข้อมูลการทำบุญอุทิศกุศลเพื่อให้คุณพ่อได้รับบุญมีความสุขจึงได้เชิญทาง“เดชะบุญ” มาช่วยดำเนินพิธีให้ การจัดงานทำบุญเป็นไปอย่างมีระเบียบและถูกต้องตามหลักศาสนพิธี รู้สึกประทับใจมาก และปลาบปลื้มในบุญที่คุณพ่อได้รับบุญกุศลอย่างเต็มเปี่ยม จากลูกหลานและครอบครัวที่ตั้งใจอุทิศให้ ขอขอบคุณทีมงานเดชะบุญที่ช่วยแนะนำสิ่งดีๆมาให้ค่ะ... " คุณมณฐลีร์ กุญชร ณ อยุธยา (บุตรีคุณไพโรจน์ ใจสิงห์)
"พฤษภกาษร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"
โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
เดชะบุญขอสดุดีคุณงามความดีของคุณไพโรจน์ ใจสิงห์ และขออุทิศบุญที่ได้ประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยดีแล้ว ขอผลบุญได้หนุนนำให้คุณไพโรจน์ ใจสิงห์ เดินทางสู่สุคติภูมิประกอบด้วยบุญอันเต็มเปี่ยมในทุกทิวาราตรีกาลเทอญฯ.
แผนภูมิการเดินทางของดวงจิตในสังสารวัฎ
สุคติภูมิ คือ ภพภูมิดินแดนที่สุขมากทุกข์น้อย เสพสุขในผลบุญที่ได้กระทำประกอบด้วย มนุษย์ภูมิ 1 เทวภูมิ 6 รูปพรหม 16 อรูปพรหมภูมิ 4 ทุคติภูมิ คือ ภพภูมิที่มีแต่ทุกข์และการลงทัณฑ์ด้วยความเจ็บปวดทรมาน ประกอบด้วย นิรยภูมิ (นรก) เปตติภูมิ (เปรต) อสุรกายภูมิ (อสูรกาย) ดิรัจฉานภูมิ (สัตว์เดรัฉาน) ผังสากลโลกว่าด้วยการกำเนิดสรรพสัตว์ กามภูมิ11 รูปภูมิ16 อรูปภูมิ4
คพฺภเมเก อุปปชฺชนฺติ นิรยํ ปาปกมฺมิโน สคฺคํ สุคติโน ยนฺติ ปรินิพฺพนฺติ อนาสวาฯ สัตว์บางพวกกลับมาเกิดอีก พวกที่ทำบาป ไปนรก พวกที่ทำดี ไปสวรรค์ พวกที่หมดอาสวกิเลส ปรินิพพาน
ทำบุญอุทิศกุศลวาระ 50 วันและ 100 วันที่บ้าน ตั้งแต่ในอดีตกาล การทำบุญอุทิศกุศลให้ผู้วายชนม์จัดกระทำที่บ้าน โดยนิมนต์คณะสงฆ์มาสวดอภิธรรมที่บ้าน เพราะไม่ว่าจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เผาที่วัด ลอยอังคารที่ทะเล บรรจุอัฐิที่กำแพงวัดก็ตาม จิตหรือกายละเอียดไม่ได้อยู่ที่กำแพงวัดหรือใต้ทะเลแม่น้ำ แต่ในระหว่าง 100 วันนี้ กายละเอียดผู้วายชนม์ยังมีความผูกพันกับครอบครัวบ้านที่เคยอยู่อาศัย และยังคงวนเวียนอยู่บริเวณบ้าน วัดไม่ใช่สถานที่กายละเอียดจะเข้าออกได้ เนื่องด้วยวัดมีเทวดาเจ้าที่ดูแลสถานที่ การทำบุญที่บ้านจึงเป็นโอกาสให้ผู้วายชนม์สามารถรับรู้ และรับการอุทิศบุญจากครอบครัวลูกหลานและญาติมิตรได้ โดยการนำภาพผู้วายชนม์หรือโกศมาประกอบพิธีทำบุญอุทิศกุศลข้างโต๊ะพระประธาน และทอดผ้าภูษาโยงจากรูปหรือโกศไปยังคณะพระภิกษุสงฆ์เพื่อทำการทอดผ้าบังสุกุล การทำบุญอุทิศกุศล 3 วาระ
1. วาระครบ 7 วัน "ทำบุญสัตมวาร" สามารถกระทำได้ระหว่างการตั้งสวดอภิธรรม 2.วาระครบ 50 วัน "ทำบุญปัญญาสมวาร" สามารถทำได้ที่บ้านผู้วายชนม์เคยอยู่อาศัย ด้วยการนิมนต์คณะสงฆ์สวดบทธรรมนิยาม ถวายมตกภัตตาหารพร้อมถวายบังสุกุลอุทิศกุศลแก่ผู้วายชนม์ 3.วาระครบ 100 วัน "ทำบุญศตมวาร" สามารถทำได้ที่บ้านของผู้วายชนม์เมื่อครบ 100 วัน หรือก่อนหน้าร้อยวัน แต่มิใช่หลังร้อยวัน เพราะจะกลายเป็นต่างกรรมต่างวาระ โดยนับถือวันที่วายชนม์เป็นวันที่หนึ่ง ด้วยการนิมนต์คณะสงฆ์สวดบทธรรมนิยาม ถวายมตกภัตตาหาร ถวายบังสุกุลอุทิศกุศล และถวายไทยธรรมเป็นสังฆทาน เพื่ออุทิศบุญกุศลนี้ส่งผู้วายชนม์เดินทางสู่สุคติภูมิที่เปี่ยมสุข เดชะบุญ จัดงานทำบุญเพื่อให้ผู้วายชนม์ได้รับบุญ เพราะบุญคือเสบียงสำคัญในปรโลก
ติดต่อสอบถามและจองวันจัดงานทำบุญได้ที่
อาจารย์วิสิทธิ์/เดชะบุญ 0898135885, 0826516246
ข้อพึงพิจารณาการทำบุญให้ผู้ตาย
1.ทำไม ต้องทำบุญในวาระ 7, 50, 100 วัน? เพราะบุญเป็นเครื่องอุปถัมภ์ บุญเป็นเสบียง บุญคือความสุข บุญคือความสว่าง บุญเป็นหนทางสู่ปัญญาให้พ้นทุกข์ที่ทุกๆสรรพชีวิตปรารถนาในทุกๆช่วงช่วงของชีวิต 2.ทำอะไร ให้ผู้วายชนม์ระหว่าง 100 วัน? โดยทั่วไปเรื่องที่คนตายเป็นห่วงมีอยู่ 3 เรื่องหลักๆ คือครอบครัว การงาน ทรัพย์สมบัติ จึงควรช่วยคลายกังวลใจเรื่องต่างๆเหล่านี้ รวมทั้งเป็นธุระจัดงานพิธีงานทำบุญสวดอภิธรรม งานทำบุญ 7 วัน 50 วัน 100 วัน ให้ท่านอย่างถูกต้องครบถ้วนด้วยความรักและเคารพ 3.ทำอย่างไร ให้ผู้วายชนม์ได้รับบุญ ?
หลักสำคัญของการทำบุญไม่ได้ขึ้นกับ "มากเท่าไร” แต่ต้องรู้ธรรมว่า “ทำอย่างไร” เงินซื้อบุญกุศลไม่ได้ ซื้อสวรรค์วิมานไม่ได้ บุญต้องมาจากกุศลเจตนา เงินเป็นเพียงเครื่องมือส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ความรู้ทางธรรมต่างหากที่เป็นต้นทางที่นำปัจจัยไปสร้างกุศลเพื่ออุทิศต่อผู้ตาย 4.ทำเมื่อไร นับวัน 7, 50, 100 วัน ที่ถูกต้อง ? ให้นับวันที่สิ้นลมปราณ(หมดลมหายใจ)เป็นวันที่หนึ่ง และนับต่อเนื่องเจ็ดวันเพื่อทำบุญสัตมวาร นับต่อเนื่องจากวันที่หนึ่งครบห้าสิบวันเพื่อทำบุญปัญญาสมวาร และนับต่อเนื่องจากวันที่หนึ่งครบหนึ่งร้อยวันเพื่อทำบุญศตมวาร โดยไม่ต้องมีการบวกลบตัวเลขใดๆเช่นจำนวนลูก เพราะจะทำให้ผิดเพี้ยนผิดความหมายและเสียโอกาสกับวันเวลาที่ล่วงเลยในการทำบุญให้ผู้ตาย 5.ทำที่ไหน ที่บ้านหรือที่วัด ?
แต่โบราณกาลมาการจัดงานศพกระทำที่บ้าน โดยนิมนต์คณะสงฆ์มาสวดอภิธรรมที่บ้านผู้วายชนม์ เพราะบ้านคือสถานที่ผู้ตายผูกพัน ดังนั้นแม้จะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เผาที่เมรุ ลอยอังคารที่ทะเล บรรจุอัฐิที่กำแพงวัด ฯลฯ กายละเอียดผู้วายชนม์จะย้อนกลับมาที่บ้านเสมอ การจัดงานทำบุญที่บ้านจึงเป็นสถานที่ผู้ตายคุ้นเคย กายละเอียดสามารถอยู่รับบุญได้และลาครอบครัวที่รักก่อนเดินทางสู่ภพภูมิใหม่ หลักคิดเรื่องสถานที่จึงไม่ใช่ยึดเอาความสะดวกของคนเป็นเช่นบ้านแคบ บ้านเก่า บ้านรก บ้านไกล แต่ควรใส่ใจผู้ตายมากกว่าคนเป็นญาติพี่น้อง เพราะไม่ว่าบ้านจะมีสภาพเช่นไร บ้านคือสถานที่ผู้ตายมีจิตผูกพันมากที่สุดกว่าที่ใดๆ
เดชะบุญ ดำเนินจัดงานทำบุญครบวงจรถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา เพื่อให้ผู้วายชนม์ได้รับบุญ เพราะบุญคือเสบียงสำคัญในปรโลก
ติดต่อสอบถามและจองวันจัดงานทำบุญได้ที่
อาจารย์วิสิทธิ์/เดชะบุญ 0898135885, 0826516246
ที่มาของ “บุญ” มีด้วยกันอยู่ 2 ประเภท
1.บุญต้นทุน คือบุญกุศล คุณความดีต่างๆที่ดำรงตนในขณะมีชีวิตอยู่ เช่น การทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาปฏิบัติธรรม ความกตัญญูกตเวที ความซื่อสัตย์ ความเคารพประพฤติธรรม มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น บุญกุศลเหล่านี้จะเป็นบุญกุศลติดตัว ดังเงาติดตามตัว โจรผู้ร้ายจะมาฉกชิงปล้นนำไปก็ไม่ได้ เพราะเป็นอริยะสมบัติที่ไม่เสื่อมสลาย 2.บุญสมทบ คือบุญกุศลที่บุคคลอื่นอุทิศส่งให้ผู้วายชนม์เมื่อละโลกเสียชีวิตแล้ว เช่น การทำบุญใส่บาตร การถวายสังฆทาน การบวชอุทิศ การถวายผ้าบังสุกุลอุทิศ การปฏิบัติธรรมต่างๆแล้วอุทิศกุศลให้ผู้วายชนม์ เป็นต้น โดยเมื่อผู้วายชนม์ได้รับรู้และอนุโมทนาบุญแล้ว ก็พลันให้วิญญาณกายละเอียดสุขสว่างคลายทุกข์ทวีสุข มีบุญเหมือนมีทรัพย์อันล้ำค่า
หากในวันมีชีวิตอยู่หมั่นขยันทำมาหากิน รู้จักอดออม รู้จักใช้ทรัพย์ ย่อมไม่ต้องรอคอยให้ผู้คนหยิบยื่นทรัพย์ให้ เพราะตนก็สามารถมีทรัพย์ด้วยน้ำพักน้ำแรงได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าหากเกียจคร้านไม่ทำงาน ล้างผลาญใช้แต่ทรัพย์ คงไม่มีใครกล้าให้ความช่วยเหลือได้ตลอด ฉันใดก็ฉันนั้น หากในวันมีชีวิตอยู่ หมั่นสร้างบุญกุศลด้วยตนเอง บุญย่อมเป็นที่พึ่งทั้งโลกนี้และโลกหน้าได้ แต่ถ้าหากใช้ชีวิตด้วยประมาทเผาผลาญทรัพย์และวันเวลาไปกับอบายมุขเพิกเฉยที่จะทำความดี เมื่อละโลกไปย่อมไม่มีบุญกุศลติดตัว จำต้องรอคอยบุญกุศลจากหมู่ญาติด้วยความหวังอันริบหรี่
ตอนมีชีวิตต้องมีมรณะสติ ทำดีละชั่ว
ความตายเป็นสิ่งเที่ยงแท้ที่สุด จะรวยหรือจน ทุกเพศทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกการศึกษา ทุกชาติตระกูล ทุกตำแหน่งหน้าที่การงาน จึงควรเป็นผู้ไม่ประมาทหาความรู้ตอนมีชีวิตอยู่ ว่าจะใช้ชีวิตในโลกนี้และโลกหน้าได้อย่างมีคุณค่าอย่างไร ไม่มีบังเอิญเกิดเป็นพระราชา เศรษฐี ชาติตระกูลสูง ปัญญาดี มีอายุยืนยาว ไม่ใช่โชคร้ายเกิดเป็นยาจก ชาติตระกูลต่ำ โรคภัยเบียดเบียน ด้อยปัญญา หรืออายุขัยสั้น ทุกอย่างล้วนเกิดจากกรรมดีและชั่ว สัตว์โลกมีกรรมเป็นเครื่องกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ดีหรือชั่วก็ตาม จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระอริยเจ้าทั้งหลายก็หนีไม่พ้นกรรม เราท่านทั้งหลายจึงควรสั่งสมบุญสร้างบารมี ทำความดีทั้งปวงในวันที่มีชีวิต อย่าประมาทในวัย ฐานะ การศึกษา ชาติตระกูล เพราะเมื่อตายจากย่อมไม่สามารถนำทรัพย์สินยศถาบรรดาศักดิ์ไปได้ สิ่งเดียวที่จะติดตัวได้คือบุญและบาปที่ได้กระทำไว้เท่านั้น
อย่าได้ไปฝากความหวังให้คนเบื้องหลังทำบุญอุทิศบุญให้เลย จงทำด้วยตนเองตั้งแต่วันนี้ วันหน้าจะได้ไม่ต้องน้อยใจ เสียใจ ผิดหวัง สิ้นหวัง ว้าเหว่ใจ ว่าทำไมคนที่เคยบอกว่ารักไม่ทำบุญให้ตน
คุณค่างานทำบุญอุทิศกุศล 50 วัน 100 วัน งานทำบุญอุทิศกุศลวาระ 50 วัน (ปัญญาสมวาร) และทำบุญ 100 วัน (ศตมวาร) ไม่เหมือนงานทำบุญบ้านหรือทำบุญห้างร้าน ในทางศาสนพิธีจำกัดความว่าเป็นงานอวมงคล การทำบุญเนื่องในงานอวมงคล ได้แก่ งานทำบุญซึ่งปรารภเหตุที่ไม่เป็นมงคล เช่น ปรารภการตายของบิดามารดา ครอบครัว หรือญาติมิตร เป็นต้น ทำบุญในงานฌาปนกิจบ้าง 7 วัน 50 วัน 100 วันบ้าง ทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันตายบ้าง เพื่อให้เหตุร้ายกลายเป็นดี เพื่อเป็นเครื่องบรรเทาความเศร้าโศก การทำบุญในกรณีเช่นนี้ มีรายละเอียดศาสนพิธีนิยมที่แตกต่างกับทำบุญมงคล การสวดมนต์ในงานอวมงคล ไม่ล้อมสายสิญจน์ ไม่ต้องตักบาตร ไม่ตั้งหม้อน้ำมนต์ ไม่พรมน้ำมนต์ ไม่เจิม ไม่ต้องล้อมด้ายสายสิญจน์พระพุทธรูปที่โต๊ะหมู่บูชา คงใช้แต่ผ้าภูษาโยง เรียกว่าสายโยง คือโยงจากฝาหีบทางด้านศีรษะศพมาวางไว้บนพานใกล้โต๊ะหมู่บูชา หรือโยงจากภาพ/รายชื่อผู้วายชนม์ มายังพระภิกษุผู้เป็นประธานสงฆ์ในการประกอบศาสนพิธี เดชะบุญจัดงานทำบุญด้วยหลักธรรม ด้วยความรู้หลักศาสนพิธีที่ถูกต้องจากพระเถระผู้เป็นครูบาอาจารย์ทรงธรรม จัดด้วยความเคารพต่อผู้วายชนม์และครอบครัวผู้วายชนม์ โดยผู้ชำนาญการพิเศษที่สามารถสื่อสารความหมายและความรู้เรื่องชีวิตหลังความตายต่อครอบครัวและผู้ร่วมงาน ให้เป็นงานทรงคุณค่าความทรงจำต่อผู้วายชนม์ให้เป็นผู้มี ”มรณะสติ” เป็นผู้ไม่ประมาทในการทำบุญกุศลความดีในขณะมีชีวิตอยู่ และเป็นผู้มีความกตัญญูคือรู้คุณ และกตเวทีคือตอบแทนคุณ ต่อผู้มีอุปการคุณบรรพชน บุพการี ครูบาอาจารย์ เป็นต้น คุณค่างานทำบุญที่เดชะบุญจัดจึงมิได้เป็นเพียงประเพณีที่ทำตามๆกันโดยไม่รู้คุณค่าและความหมาย แต่เป็นการดำเนินการจัดเพื่อส่งบุญกุศลเป็นบุญสมทบผนวกรวมกับบุญต้นทุนที่ผู้วายชนม์ได้กระทำด้วยตนเองเมื่อครามีชีวิตอยู่ รวมทั้งการปลูกจิตสำนึกมรณสติให้สร้างสรรค์ความดีในวันมีชีวิตด้วยความไม่ประมาท เพราะความตายเป็นเพียงอีกจุดเริ่มต้นการเดินทางใหม่ของจิต ที่ครอบครัวสามารถหนุนนำบุญเป็นเสบียงเครื่องเดินทางสู่สุคติแด่ผู้วายชนม์ได้. สอบถามการจัดงานทำบุญด้วยปัญญาและสัมมาทิฎฐิได้ 24 ชั่วโมง ที่อาจารย์วิสิทธิ์/เดชะบุญ โทร 0898135885 / LINE 0826516246
"สากัจฉายะ ปัญญา เวทิตัพพา" ปัญญา รู้ได้ด้วยการสนทนา
ความรู้เรื่องชีวิตหลังชีวิต ที่ต้องรู้ก่อนตาย
ความเชื่อ แตกต่างกับ ความจริงอย่างไร ความเชื่อ เป็นส่วนเฉพาะบุคคล หรือกลุ่มบุคคลจำนวนมาก อาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่ความจริง เป็นสิ่งที่แม้ไม่เชื่อก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใดๆได้ เป็นความจริงเช่นนั้นเสมอ เดชะบุญ ขอนำความเชื่อที่ได้ประสบพบเห็นและได้ยินเกี่ยวกับ “ความตาย” ได้เปรียบกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในพระธรรมคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้สั่งสมบำเพ็ญเพียร 4 อสงไขยกับหนึ่งแสนมหากัปตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ เพื่อให้ผู้อ่านได้พิจารณาด้วยสติปัญญาประดับเป็นความรู้และกระทำได้อย่างถูกต้องทั้งต่อตนในวันที่ยังมีลมหายใจ และต่อบุคคลผู้เป็นที่รักที่ละโลกแล้ว ความเชื่อ เกิดหนเดียวตายหนเดียว ชาติที่แล้วไม่มี ชาติหน้าไม่มี ตายแล้วสูญ ความจริง ทุกสรรพชีวิตในวัฏสงสารล้วนต่างต้องเวียนว่ายตายเกิด ตายแล้วไม่สูญ มีภพภูมิรองรับกรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเรื่องสัมมาทิฏฐิ 10 ประการ ดังนี้ 1. ทานที่ให้แล้วมีผลจริง 2. ยัญที่ทำแล้วมีผลจริง (การสงเคราะห์กันมีผล) 3. การยกย่องบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผลจริง
4. วิบากแห่งกรรมดีกรรมชั่วมีผลจริง 5. โลกนี้มีจริง 6. โลกหน้ามีจริง 7. มารดามีคุณจริง 8. บิดามีคุณจริง 9. สัตว์ที่เกิดแบบโอปปาติกะมีจริง
10. พระอรหันต์ผู้ สามารถรู้แจ้งโลกนี้โลกหน้ามีอยู่จริง
|